ลงทุน ให้ดีแปลว่าต้องมีความรู้เงิน แต่ปัญหา คือ แค่ให้เงินเหลือมาถึงสิ้นเดือนก็ยากแล้วจะเหลือเงินออมและไปลงทุนได้ยังไง การทำ 2 อย่างนี้ไปพร้อมกันถือว่าเป็นงานหินมากๆสำหรับคนหาเช้ากินค่ำ หรือมนุษย์เงินเดือน แต่วันนี้จะมาแชร์ทริคที่สามารถทำให้ทั้ง 2 อย่างเดินทางไปพร้อมกันตามเส้นขนานได้ครับ
ตั้งเป้าหมายการเงิน การ ลงทุน ที่ชัดเจน
การตั้งเป้าหมายการเงินถือเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุดในการบริหารเงิน เมื่อคุณตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมจะช่วยให้คุณสามารถวางแผนการเงินได้ดีขึ้น ซึ่งการตั้งเป้าหมายนี้จะทำให้คุณเข้าใจว่า คุณต้องการมีเงินออมสำหรับอะไร เช่น การสร้างกองทุนฉุกเฉิน การออมเพื่อซื้อบ้าน หรือการเกษียณอายุในอนาคต และต้องการลงทุนเพื่อการเติบโตของเงินในระยะยาว
- เงินออม: เป้าหมายการออมอาจจะเป็นการสร้างกองทุนฉุกเฉินที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในระยะ 6 เดือนหรือมากกว่า หรือการออมเพื่อใช้จ่ายในเหตุการณ์สำคัญ เช่น การซื้อบ้านหรือการศึกษาต่อ
- เงินลงทุน: เป้าหมายการลงทุนอาจจะเป็นการเตรียมตัวเพื่อการเกษียณอายุ หรือการลงทุนในสินทรัพย์ที่สามารถให้ผลตอบแทนในระยะยาว เช่น กองทุนรวม หุ้น หรืออสังหาริมทรัพย์
จัดสรรเงินส่วนบุคคลให้เหมาะสม (50/30/20 Rule)
หนึ่งในวิธีการบริหารเงินที่ง่ายและมีประสิทธิภาพคือการใช้หลักการ 50/30/20 Rule ซึ่งเป็นวิธีการจัดสรรเงินที่เหมาะสมสำหรับการออมและการลงทุน โดยแบ่งการใช้จ่ายออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่
- 50% สำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น: เช่น ค่าเช่าบ้าน, ค่าน้ำ, ค่าไฟ, ค่าอาหาร และค่าบริการต่างๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต
- 30% สำหรับค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น: เช่น การออกไปทานอาหารนอกบ้าน, ซื้อของที่ไม่จำเป็น, การท่องเที่ยว หรือการซื้อของฟุ่มเฟือย
- 20% สำหรับการออมและการลงทุน: โดยแบ่งส่วนนี้ออกเป็น 2 ส่วน เช่น 10% สำหรับการออมในกองทุนฉุกเฉิน และ 10% สำหรับการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เช่น หุ้น, กองทุนรวม, หวยไว หรืออสังหาริมทรัพย์
การจัดสรรเงินในลักษณะนี้จะทำให้คุณสามารถบริหารเงินได้อย่างมีระเบียบและช่วยให้คุณมีเงินออมและเงินลงทุนไปพร้อมกัน
สร้างกองทุนฉุกเฉินให้สำเร็จก่อนจะไป ลงทุน
การสร้าง กองทุนฉุกเฉิน เป็นสิ่งที่ควรทำก่อนที่จะเริ่มต้นการลงทุน เพราะกองทุนฉุกเฉินจะช่วยให้คุณสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น การเจ็บป่วย, การตกงาน, หรือการเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่ทำให้คุณต้องใช้เงินโดยไม่เตรียมตัว
วิธีการสร้างกองทุนฉุกเฉิน:
- จำนวนเงินที่เหมาะสม: ควรเริ่มต้นจากการออมเงินที่สามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายได้อย่างน้อย 3-6 เดือน ซึ่งจะช่วยให้คุณมีความมั่นคงในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน
- แหล่งการเก็บเงิน: กองทุนฉุกเฉินควรเก็บในบัญชีออมทรัพย์หรือบัญชีที่มีสภาพคล่องสูง และสามารถถอนเงินได้เมื่อจำเป็น โดยไม่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงหรือค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
เมื่อคุณสร้างกองทุนฉุกเฉินสำเร็จแล้ว คุณสามารถเริ่มต้นการลงทุนได้อย่างมั่นใจโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการขาดแคลนเงินในกรณีฉุกเฉิน
ลงทุน อย่างมีการกระจายความเสี่ยง
การลงทุนที่ดีควรมีกลยุทธ์ที่ช่วยกระจายความเสี่ยง เนื่องจากการลงทุนในสินทรัพย์เดียวหรือสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงอาจทำให้คุณสูญเสียเงินทั้งหมดหากตลาดมีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ไม่คาดคิด ดังนั้นการกระจายการลงทุนในหลายๆ สินทรัพย์จึงเป็นวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในระยะยาว
- ลงทุนในหุ้น: เลือกลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีความมั่นคงและมีแนวโน้มการเติบโตในอนาคต
- กองทุนรวม: กองทุนรวมเป็นตัวเลือกที่ดีในการกระจายความเสี่ยง เนื่องจากการลงทุนในกองทุนรวมจะรวมการลงทุนในหลายๆ หุ้นหรือพันธบัตร
- อสังหาริมทรัพย์: การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว โดยเฉพาะการลงทุนในพื้นที่ที่มีแนวโน้มการเติบโตของตลาด
การกระจายการลงทุนในหลายประเภทสินทรัพย์จะช่วยให้คุณมีความมั่นคงทางการเงินและสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
ติดตามและปรับแผนการ ลงทุน และการเงินเป็นประจำ
การบริหารเงินเพื่อให้มีทั้งการออมและการลงทุนไม่ใช่สิ่งที่ทำเพียงแค่ครั้งเดียวแล้วเสร็จ แต่ต้องมีการติดตามและปรับแผนการเงินอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อสถานการณ์ทางการเงินของคุณเปลี่ยนแปลง
- ตรวจสอบสถานะการเงิน: ตรวจสอบรายได้และค่าใช้จ่ายของคุณเป็นประจำ เช่น ทุกๆ เดือน หรือทุกๆ ไตรมาส เพื่อให้แน่ใจว่าคุณยังคงสามารถออมและลงทุนตามแผนที่ตั้งไว้ได้
- ปรับแผนตามสถานการณ์: หากมีการเปลี่ยนแปลงในสถานะการเงิน เช่น การได้รับรายได้มากขึ้น หรือการมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ควรปรับแผนการเงินเพื่อให้แน่ใจว่าเงินออมและการลงทุนยังคงอยู่ในระดับที่เหมาะสม
การติดตามและปรับแผนการเงินช่วยให้คุณสามารถรักษาความมั่นคงทางการเงินและบรรลุเป้าหมายทั้งการออมและการลงทุนได้ตามต้องการ
สรุป
การบริหารเงินให้มีทั้งเงินออมและการลงทุนไปพร้อมกันต้องอาศัยการวางแผนที่ดี การตั้งเป้าหมายการเงินที่ชัดเจน การจัดสรรเงินอย่างมีระเบียบ การสร้างกองทุนฉุกเฉิน และการลงทุนที่กระจายความเสี่ยง นอกจากนี้การติดตามและปรับแผนการเงินเป็นประจำจะช่วยให้คุณสามารถควบคุมสถานการณ์ทางการเงินของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การออมและการลงทุนเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการสร้างความมั่นคงทางการเงินในอนาคต อย่ารอให้ถึงเวลาเกษียณหรือเวลาที่คุณจำเป็นต้องใช้เงินก่อนที่จะเริ่มต้นวางแผน บริหารเงินให้ดีวันนี้ เพื่ออนาคตที่สดใสและมั่นคง
No responses yet